My pix

My pix

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สงครามเกาหลี...



ภาพเหตุการณ์ในสงครามเกาหลี (วิกิพีเดีย) (เรียงลำดับตามเข็มนาฬิกาจากล่างสุด) : ร้อยโทบัลโดเมโร โลเปซ แห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ นำกำลังพลเคลื่อนเข้าสู่เมืองอินชอน; กองทัพสหประชาชาติข้ามเส้นรุ้งที่ 38 องศาเหนือ; กองทหารสหรัฐฯ จับเชลยฝ่ายคอมมิวนิสต์จีนในแนวรบเกาหลีตอนกลางที่เมืองฮองซอง; เครื่องบินบี-26 ของกองทัพอากาศเกาหลีที่ 5 ทำการทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายของเกาหลีเหนือ; เด็กหญิงชาวเกาหลีอุ้มน้องชายหนีภัยสงครามมายังฝั่งเกาหลีใต้

คมชัดลึก &สนุก! พีเดีย : หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยเส้นขนานที่ 38 ส่วนหนึ่งเกาหลีเหนือเป็นเขตอุตสาหกรรมของประเทศในขณะนั้น อยู่ในความควบคุมของรัสเซียหรือว่าสหภาพโซเวียต ส่วนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นเขตเกษตรกรรม อยู่ในความควบคุมของสหรัฐอเมริกา
ประเทศเกาหลีโดนยึดครองโดยประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ ฝ่ายพันธมิตรได้แบ่งดินแดนของเกาหลีเป็นสองส่วน โดยส่วนเหนือยอมแพ้ต่อโซเวียต และส่วนใต้ยอมแพ้ต่อสหรัฐอเมริกา มีเส้นแบ่งอยู่ที่เส้นขนานที่ 38 ทางสหประชาชาติมีแผนจะจัดการเลือกตั้งใน ค.ศ. 1948 แต่ได้รับการปฏิเสธจากโซเวียต และตั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์ขึ้นมาเอง
 

วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 ทหารฝ่ายเกาหลีเหนืออาศัยอาวุธยุทโธปกรณ์ของโซเวียตบุกข้ามเส้นขนานที่ 38 ลงมา วันที่ 28 มิถุนายน ก็สามารถยึดกรุงโซลได้ สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน ได้สั่งการให้นายพลดักลาส แมคอาเธอร์ ผู้บัญชาการภาคพื้นแปซิฟิกในขณะนั้น ให้ทำการตอบโต้

ประวัติศาสตร์ว่าด้วยสงครามเกาหลีได้บันทึกเอาไว้ว่า ผู้บุกรุกมีความกล้าหาญอย่างบ้าคลั่ง ทั้งด้วยอาวุธที่มีและทหารที่มากกว่า ซึ่งผ่านประสบการณ์รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้วอย่างโชกโชน และเป็นที่รู้กันดีว่ามีกองทัพจีนคอมมิวนิสต์หนุนหลังอยู่

 กล่าวกันว่าจีนต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าสามารถที่จะเข้ายึดเอเชียเมื่อไหร่ก็ได้ ในขณะที่รัสเซียก็คาดว่า อเมริกาคงจะไม่เข้ามายุ่งด้วย เพราะอยู่ห่างจากคาบสมุทรเกาหลีออกไปถึง 7,000ไมล์ แต่ก็คาดผิด
 เพราะทั้งอเมริกาและองค์การสหประชาชาติที่เพิ่งจะตั้งมาได้ 5 ปี ต่างร่วมมือกันเข้าช่วยเกาหลีใต้ในนามของกลุ่มประเทศโลกเสรี มีจุดหมายเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ผู้รุกรานโดยตรง
 สงครามบนคาบสมุทรเกาหลีเมื่อ 60 ปีก่อนจึงเท่ากับสงครามแรกในยุคโลกสงครามเย็นอันเป็นสงครามตัวแทนระหว่างค่ายเสรีกับค่ายคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีการประกาศเป็นทางการแต่อย่างใด
 ฝ่ายเกาหลีเหนือมีจีนกับสหภาพโซเวียต ส่วนฝ่ายเกาหลีใต้มีสหรัฐอเมริกากับสหประชาชาติอันประกอบไปด้วยแคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ฯลฯ และรวมทั้งไทยเราด้วย
 สงครามเกาหลีนับว่าเป็นสงครามที่นองเลือดรุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่ง
 การรบเท่าที่ประวัติศาสตร์ได้บรรยายไว้ว่าทั้งสองฝ่ายสู้กันในภูมิประเทศส่วนใหญ่ที่เป็นทั้งภูเขาสูงขรุขระ หุบเหวลึกและแม่น้ำลำธารที่คดเคี้ยวไปมาอย่างเอาแน่ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่สยดสยองทารุณทั้งจากอากาศที่เย็นเยือก และมีลมพัดแรงอยู่ตลอดเวลา
 ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดทั้งด้วยทหารราบบนพื้นดิน เครื่องบินรบในอากาศ และเรือรบในทะเล และทั้งจากอาวุธนานาชนิดที่ได้พัฒนามาจากสงครามโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถถัง ปืนใหญ่ ปืนกล และระเบิดเพลิงอย่างนาปาล์ม
 ว่ากันว่ารถถัง เครื่องบินเจ็ตของรัสเซียมีพลังอำนาจมาก แต่เครื่องบินของอเมริกาและอังกฤษยิ่งมีประสิทธิภาพในการทำลายล้างได้มากกว่า เพราะสามารถเข้าโจมตีข้าศึกแบบปูพรมได้ถึงพันครั้งต่อวัน
 ทั้งสองฝ่ายจึงสู้กันอยู่ในท่ามกลางกองซากศพจำนวนมหาศาล
 เมื่อแรกฝ่ายเกาหลีใต้ถอยร่นเกือบตกทะเลแต่ต่อมาก็ตีโต้และรุกคืบเข้าจนถึงเปียงยางเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ก่อนที่ทั้งอเมริกา รัสเซียและจีนจะได้คิดว่า อาจจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นได้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้เจรจาทำสัญญาสงบศึกต่อกันพร้อมกับที่ต่างถอยมาตั้งหลักอยู่ในที่เดิมหลังจากที่รบกันมา 3 ปีเต็มพอดี สงครามเกาหลี ฝ่ายโลกเสรีสูญเสียทหารไปกว่า 4 แสนคน ทั้งที่ถูกฆ่าตาย ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ บาดเจ็บ และพิการอีกนับแสน และในจำนวนนี้เป็นทหารอเมริกันกว่า 1.3 แสนคน ส่วนฝ่ายคอมมิวนิสต์กล่าวกันว่า มากกว่าถึง 4 เท่าตัว อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน
 ถือเป็นสงครามที่นองเลือดน่าสยดสยองมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นมาอีก นอกจากการซ้อมรบอย่างที่เห็นกันอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น